วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

( CUT ) Chuudoku 6P all exo-k x kyungsoo

CUT -//////////////-

            ว่าแล้วก็พยายามดิ้นขัดขืน แต่เซฮุนกับแบคฮยอนก็ล็อคแขนของผมเอาไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างของเขาทั้งคู่ที่ว่างก็เลื่อนมาลูบไล้แผงอกของผมผ่านเนื้อผ้า .. อึก .. ไม่นะ...

            “ปล่อยฉันนะ พวกนายเป็นอะไรกันไปหมด ช่วยด้วย ใครก็ได้ข่วยด้วย !” ผมตะโกนร้องจนสุดเสียง แต่ก็ได้รับเสียงหัวเราะน้อยๆจากสมาชิกฝั่งเคอีก 5 คนกลับมาแทน

            “ลืมไปแล้วเหรอว่าห้องนี้เก็บเสียง” พี่จุนมยอนพูดพลางหันไปสั่งให้จงอินและชานยอลปล่อยขาของผมจากนั้นก็นั่งลงแล้วใช้มือกดขาของผมเอาไว้ .. ตอนนี้พวกเขาทั้งห้าคนอยู่รอบๆตัวผม น้ำตาของผมไหลลงมาอย่างช่วยไม่ได้ ..

            พี่จุนมยอนเดินมาด้านหลังของผม แล้วบอกให้เซฮุนกับแบคฮยอนปล่อยแขนของผม พี่เขาดันหลังของผมให้มาพนักพิงกับแผงอกของพี่เขา .. เวลานี้แหละ ผมจะสู้ !

            “ปล่อยๆๆๆ บอกให้ปล่อยไง ! อั่ก....” ใช้มือปัดป่ายและดิ้นขัดขืนได้ไม่เท่าไหร่ หมัดหนักๆของน้องเล็กอย่างโอเซฮุนก็ซัดเข้าที่ท้องของผม จุกเป็นบ้าเลยครับ นั่นทำให้ผมไม่สามารถขัดขืนอะไรใครได้อีก .. คงเป็นเพราะการซ้อมของเราที่มันใช้พลังงานไปเยอะ ตอนนี้ผมแทบจะไม่มีแรงแล้ว

            “อ๊ะ .. อย่านะ ...” ผมร้องประท้วงเมื่อจู่ๆมือหนาของใครสักคนกำลังจะถอดกางเกงวอร์มของผมออก ผมใส่เพราะมันเต้นสะดวกหรอกนะ แต่ใครจะไปคิดว่าจะโดนแบบนี้ มันเลยถอดสะดวกกว่ากางเกงยีนส์อะไรพวกนี้ ..

            “อย่าขัดขืนน่าพี่” จงอิน .. น้องที่ผมไว้ใจมากที่สุด ตอนนี้เขาทำลายความไว้ใจของผมไม่เหลือชิ้นดี เขาเป็นคนถอดกางเกงของผมออกแม้ว่าผมจะหนีบขาเพื่อไม่ให้เขาถอดกางเกงออกแค่ไหน แต่เขาก็มีชานยอลเป็นคนช่วยอยู่ดี

            “ปล่อยฉันไปเถอะนะ..” จากขัดขืนในตอนแรกกลายเป็นอ้อนวอน .. เซฮุน แบคฮยอนและพี่จุนมยอนช่วยกันถอดเสื้อของผมออก แม้ว่าจะขัดขืนแค่ไหนก็ไม่อาจสู้แรงของพวกเขาทั้งห้าได้ .. มันอาจจะดูงี่เง่าใช่มั้ยล่ะ เป็นผู้ชายภาษาอะไรทำไมสู้แรงผู้ชายด้วยกันไม่ได้ .. ผมสู้ได้ครับถ้าไม่เต้นจนเหนื่อย ถ้าไม่ถูกต่อยที่ท้อง ถ้าไม่ถูกผู้ชายห้าคนกดไว้แบบนี้

            ผมกลายเป็นเด็กผู้ชายอ่อนแอคนหนึ่งไปโดยปริยาย ...

            “โห ขาวขนาดนี้เลยเหรอ” ชานยอลพูดขึ้นมาพลางลูบไล้ขาอ่อนของผม ..

            “เพิ่งรู้รึไง คยองซูน่ะข๊าวขาว แถมน่ารักอีก” แบคฮยอนพูดพลางหยิกแก้มของผมเป็นเชิงหยอกล้อ มือของแบคฮยอนเลื่อนจากแก้มของผมไปยังแผงอกของผม แล้วจัดการใช้นิ้วชี้และนิ้วโป้งขยี้ยอดอกของผมเล่น เซฮุนเองก็เช่นเดียวกัน เขาทำเหมือนกับแบคฮยอน .. เด็กนี่ .. ไม่คิดจะช่วยพี่เลยรึไง แต่ก็นะ ถ้าเขาจะช่วยผม เขาคงไม่เดินไปล็อคประตูและคงไม่ชกท้องผมแบบนี้หรอก

            “พวกนาย...อื้อ...” ใบหน้าของผมถูกพี่จุนมยอนซึ่งเป็นที่พนักพิงให้ผมตอนนี้หันให้ไปจูบกับพี่เขา ริมฝีปากที่ผมไม่เคยคิดจะสัมผัสก็ต้องสัมผัส ผมเม้มปากตัวเองในตอนแรก แต่ก็ถูกพี่เขาบีบกรามจนต้องเปิดออกจนได้ .. พี่จุนมยอนไปเอาแรงมาจากไหน จากคนที่ผมคิดว่าเป็นผู้ที่คอยพิทักษ์เอ็กโซ คอยพิทักษ์สมาชิกทุกคนในวง แต่ตอนนี้เขาไม่ใช่ .. เขาคือคนที่ทำลายตัวผม !

            “อื้อ ! ....”

            ส่วนกลางลำตัวของผมถูกมือของใครสักคนลูบไล้ผ่านกางเกงชั้นใน นวดคลึงผ่านเนื้อผ้า ไม่นานนักกางเกงชั้นในที่ปกปิดส่วนกลางลำตัวของผมไว้ก็ถูกถอดออก ผมรู้สึกได้ว่ามันคงจะตั้งชูชันตระหง่านต่อหน้าพวกเขาแล้ว .. ผมก็ผู้ชายนะครับ มันเป็นธรรมดาที่จะต้องเป็นแบบนั้น

            ผมคง..หนีใครไปไหนไม่ได้แล้วสินะ

            ทำไมชีวิตผมถึงต้องเป็นแบบนี้ พวกเขาไม่เคยเห็นคุณค่าในตัวผมเลยเหรอ

            “พวกนายไม่เคยเห็นคุณค่าของฉันเลยใช่มั้ย” ทันทีที่พี่จุนมยอนถอนริมฝีปากของผมออกแล้วเลื่อนใบหน้าไปซุกไซ้ซอกคอของผมนั้น ผมก็โพล่งออกไปท่ามกลางความหมกมุ่นของคนทั้งห้า

            “นายมีคุณค่าต่อพวกเราเสมอ .. เพราะแบบนี้ไง เราเลยไม่ยอมให้นายไปเป็นคุณค่าของใคร”

            “เห็นแก่ตัว .. อ๊ะ !” ชานยอลที่เพิ่งพูดบอกว่าผมมีคุณค่าอย่างเห็นแก่ตัวนั้นก็จัดการกอบกุมส่วนอ่อนไหวของผมแล้วรูดขึ้นรูดลง ผมกัดริมฝีปากของตัวเองจนรู้สึกว่ามันห้อเลือด

            “ยอมๆเถอะน่า .. ก็มีแค่พวกผมนะพี่” เซฮุนพูดด้วยน้ำเสียงอู้อี้ เมื่อตอนนี้เขากับแบคฮยอนใช้ปากและลิ้นเลียและดูดยอดอกของผมราวกับว่านี่คือของหวานรสเลิศ เมื่อร่างกายถูกกระตุ้นในส่วนที่เร้าต่ออารมณ์แทบจะทุกที่ ร่างกายของผมมันก็เหมือนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ

            “ใครจะเข้าไปก่อน” ชานยอลถามขึ้นมา นั่นทำให้ทุกคนที่กำลังก้มหน้าก้มตาปรนเปรอร่างกายผมอยู่นั้นต้องเงยหน้าขึ้นมามองหน้ากัน ...

            “ไม่ !!! ฉันไม่ให้ใครเข้าไปทั้งนั้น ปล่อย !!” ผมพยายามดิ้นตัวเองอีกครั้ง แต่ก็นั่นแหละ ถูกกดไว้เหมือนเดิม
           
            “คยองซูอ่า .. อย่าขัดขืนพวกเราเลยน่า”

            “อ..อึก...” ผมกัดปากตัวเองเมื่อชานยอลพูดกับผมไปและใช้มือรูดรั้งส่วนล่างของผมขึ้นลงช้าๆ จากช้าเป็นเร็วจนผมอดไม่ได้ที่จะต้องกัดปากตัวเองเพื่อระบายความรู้สึก .. ผมจะไม่ครางออกมาเด็ดขาด
             
            “ตัวนายหอมจังเลยคยองซู” พี่จุนมยอนพูดในขณะที่ใบหน้ายังซุกอยู่ที่ซอกคอของผม แลดูทุกคนจะตั้งใจมากกับการทำลายตัวผม จะพอมีวิธีไหนบ้างนะที่ผมจะสามารถรอดออกไปจากห้องนี้และคนทั้งห้านี้ได้ และถ้าออกไปได้จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

            แต่ไม่ว่าจะอยู่หรือไปผมก็แค่คนไร้ค่าคนหนึ่งเท่านั้น ...

            ศักดิ์ศรีของผมไม่เหลือแล้วล่ะ ..

            “อ่ะ อ๊า !!! เจ็บ !!!” ผมร้องออกมาเสียงดังเมื่อรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่แล่นไปทั่วร่างกาย รู้สึกเหมือนโดนไฟช็อตร่าง อยากจะระเบิดตัวเองให้ตายไปตรงนี้ จะได้ไม่ต้องพบเจอกับสิ่งร้ายๆอีกต่อไป

            “เอามันออกไป อึก... เอามันออกไป อ๊า !!” ผมเห็นจงอิน .. ใช่ จงอินกำลังเสือกไสแกนกายของตัวเองเข้าออกกับส่วนล่างของผม น้ำตาของผมไหลออกมาไม่หยุด ความรู้สึกหลายๆอย่างมันปะปนกันไปหมด ชานยอลใช้มือรูดรั้งแกนกายของผมจนมันเสร็จไปไม่รู้กี่รอบ เซฮุนใช้ลิ้นแตะกับยอดอกของผม แบคฮยอนใช้มือบดขยี้ยอดอกของผมอีกข้าง เขาคงเห็นว่าผมร้องเสียงดังน่ารำคาญมั้ง เลยหยุดขยี้แล้วรั้งใบหน้าของผมเข้าไปจูบแลกลิ้นจนน้ำสีใสไหลลงมาเลอะมุมปากของผม ส่วนพี่จุนมยอนกำลังทำรอยรักไว้ตรงซอกคอของผม

            ทุกคนดูจะมีความสุขมาก แต่ไม่ใช่ผมแน่นอน นี่เหรอคือสิ่งที่ผมได้รับจากการที่คอยดูแลพวกเขาและรักพวกเขามากขนาดนี้ .. มิตรภาพของพวกเราจะเป็นยังไงต่อไปเหรอ .. ผมหาทางออกไม่เจอเลย

            “ให้ฉันเข้าไปบ้างสิ” เซฮุนเงยหน้าขึ้นแล้วหันไปพูดกับจงอิน แต่เหมือนคนผิวเข้มจะไม่ได้สนใจ เขากระแทกส่วนล่างแรงจนผมเผลอกัดปากแบคฮยอนไปหลายรอบ ปากของผมมันบวมเจ่อจนผมรู้สึกได้ เจ็บที่ส่วนล่างเหลือเกิน .. รวมไปถึงหัวใจด้วยนะ มันเจ็บ .. เจ็บจนทรมาน

            “ฉัน...อึก..เกลียด...พวกนาย” ผมเค้นเสียงออกมาอย่างยากลำบากหลังจากที่แบคฮยอนผละริมฝีปากออก ต้องห้ามไม่ให้ตัวเองครางออกมา และเหมือนจะมีปฏิกิริยาบางอย่างเกิดขึ้น ทุกคนหยุดการกระทำทุกอย่างแล้วมองมายังผม .. เดาไม่ออกเลยว่าใครคิดอะไรบ้าง

            “เกลียดเหรอ ... ฮยองเกลียดพวกเราเหรอครับ” เซฮุน มักเน่ที่ผมเคยมองว่าขี้อ้อนและน่ารัก แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เลย เขาไม่ต่างไปจากซาตานในคราบมักเน่เลย

            “ใช่ .. ฉันเกลียดพวกนาย ... เกลียดมากๆ เกลียด อ๊าาาา!!!!” จงอินกระแทกส่วนล่างเข้ามาอย่างแรงราวกับต้องการจะระบายความหงุดหงิดทั้งหมด .. ผมเกลียดพวกเขาจริงๆ ฮึก เกลียดๆๆๆๆ

            “เกลียดได้เกลียดไป แต่พวกเราจะไม่หยุดรักนายหรอกนะเจ้านกฮูกน้อยยย” ชานยอลพูดอย่างอารมณ์ดี ใบหน้าเขาเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มที่ผมมองว่าโรคจิต ..

            “เสร็จแล้วเหรอ ให้ฮยองเข้าไปบ้างสิวะ” พี่จุนมยอนพูดขึ้นมาเมื่อเห็นว่าจงอินเสร็จภารกิจแล้ว ผมรู้สึกได้ถึงคราบขาวขุ่นที่ไหลและอยู่ในตัวของผม ผมอยากจะฆ่าพวกเขาให้ตายนัก จิตใจมนุษย์มันเลวทรามต่ำช้าขนาดนี้เชียวหรือ ...

            “ย่าห์ ฮยอง ให้ผมก่อน” ชานยอลพูดขัด เขาดันจงอินไปให้พ้นทาง ชานยอลสอดแทรกแกนกายเข้ามาโดยที่ไม่บอกไม่กล่าวผม และมันเป็นอีกครั้งที่ผมร้องออกมาอย่างเจ็บปวด เจ็บปวดไปทุกส่วนเลยล่ะ

            “นี่เรามาคุยกันดีกว่านะคยองซู ... อื้มม ทำไมนายถึงชอบใส่ชุดสีดำเหรอ” แบคฮยอนพูดขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี .. เขาเหมือนชานยอลนั่นแหละ ดูอารมณ์ดี แต่ความจริงแล้วก็โรคจิตไม่ต่างกัน

            “...............” ผมไม่ตอบแต่กัดปากตัวเองเพื่อระบายความรู้สึกพวกนั้น ชานยอลนุ่มนวลกว่าจงอินแต่ก็ต้องยอมรับว่ามันเจ็บมากๆ .. ยังเหลือเซฮุน แบคฮยอน แล้วก็พี่จุนมยอน .. ปิดเปลือกตาของตัวเองไว้ ไม่อยากรับรู้อะไรเลย ไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้ว มันเจ็บทั้งกายและใจ จนอยากจะตายให้รู้แล้วรู้รอด

            “ทำไมไม่ตอบฉันล่ะ ฉันน้อยใจน้าาาา” ถึงปากเขาจะพูดว่าน้อยใจ แต่แบคฮยอนกลับใช้มือทั้งสองขยี้ยอดอกของผมจนรู้สึกเจ็บมากกว่าจะรู้สึกดี .. เจ็บนะ แต่ไม่อยากร้อง ไม่อยากอ่อนแอ

            “อยากจูบจังเลย มัวแต่นัวเนียท่อนล่าง ยังไม่ได้นัวเนียท่อนบนเลย” จงอิน ... เหอะ เขาเป็นคนแรกเลยนะ คนแรกที่ได้เข้ามาในร่างกายของผม .. ก่อนหน้านั้นเรามีความรู้สึกดีๆให้แก่กัน แต่ไม่รู้เพราะอะไรที่ทำให้เขาเป็นคนแบบนี้ ใครเสี้ยมใครสอนให้พวกเขาเป็นคนแบบนี้กัน ..

            “อื้อ ...” จงอินจูบผมเหมือนที่เราเคยจูบกัน .. น้ำตาของผมไหลลงมาอีกครั้ง มันไม่ได้อ่อนโยนและเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกดีๆเหมือนเมื่อก่อน แต่ครั้งนี้มันคือการทำร้ายและทำลาย ..

            “จงอิน..คนเดิมหายไปไหน...”

            “ขอโทษนะครับ .. แต่พอผมรู้ว่าทุกคนก็ต้องการ เลยคิดว่าเป็นแบบนี้น่าจะดีกว่า แบ่งกันรักให้ครบกันทั้งฝั่ง J” เลว .. ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าเด็กตรงหน้า .. ผมกัดปากตัวเองแน่นข่มทุกอย่างไว้ภายในส่วนลึกของความรู้สึก

            “เย้ ตาฉันแล้วววว” แบคฮยอนร้องออกมาอย่างร่าเริงเมื่อเห็นว่าแฮ๊ปปี้ไวรัสอย่างชานยอลเสร็จภารกิจแล้ว แบคฮยอนถอดกางเกงของตัวเองออก เผยให้เห็นแกนกายที่ไม่เล็กมากและไม่ใหญ่มาก เขารูดรั้งมันสองสามทีก่อนจะสอดแทรกเข้ามาภายในร่างของผม .. มันยังไม่คุ้นชิน ผมเลยสะดุ้งเหมือนถูกไฟช็อต

            “อ่า ...” แบคฮยอนครางออกมา ผมมองหน้าทุกคน พวกเขามีใบหน้าที่หล่อเหลา แต่ภายในจิตใจพวกเขาสกปรกเหลือเกิน ผมไม่มีแรงจะสู้พวกเขาตั้งแต่จงอินเป็นคนเอามันเข้ามาในตัวผมแล้วล่ะ ผมไม่ได้ยอม แต่คิดว่าผมคนเดียวจะสู้แรงคนอีกตั้งห้าคนได้เหรอ .. มันโหดร้ายและรุนแรงสำหรับผมเกินไป

            นี่คงเป็นพายุที่ใหญ่ที่สุดที่พัดเข้ามาในชีวิตของผม ..

            เป็นพายุที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต .. 

            “อึก....” ขณะที่แบคฮยอนกำลังสวนสะโพกอยู่นั้น เซฮุนก็กอบกุมส่วนอ่อนไหวของผมแล้วรูดรั้งขึ้นลงตามจังหวะที่เขากำหนดขึ้น ... มันเร็วมาก เขาทำเร็วเกินไป ผมแยกไม่ออกแล้วว่าควรจะรู้สึกกับสิ่งไหนก่อน ช่องทางที่ถูกแบคฮยอนรุกล้ำ ส่วนอ่อนไหวที่ถูกเซฮุนปรนเปรอ ยอดอกทั้งสองข้างที่ถูกพี่จุนมยอนโลมเลีย ซอกคอที่ถูกจงอินขบเม้ม ส่วนชานยอลน่ะเหรอ พอเขาเสร็จเขาก็ไปนั่งเล่นเกมต่อ .. เขาเป็นเพื่อนที่ผมคิดว่าผมน่าจะสนิทกับเขาที่สุด เพราะเราสนิทกันในระดับหนึ่งตอนเป็นเด็กเทรน แต่ดูตอนนี้สิ เขาได้ผมแล้วเขาก็ไปนั่งเล่นเกม แทนที่เขาจะช่วยผมไว้ .. เลวกันทั้งหมดเลย ถ้ารอดไปได้ปาดคอตายดีมั้ยนะ

            “ร้องไห้ทำไมหืม” พี่จุนมยอนละใบหน้าออกจากยอดอกแล้วใช้มือทั้งสองข้างปาดน้ำตาของผมที่ไหลลงมา ผมกกะจะไม่ร้องไห้แล้วนะ แต่ทำไมมันถึงไหลออกมาอย่างกะเขื่อนแตกแบบนี้ล่ะ

            “ผมเกลียดพี่”

            “เหรอ เกลียดแล้วไงล่ะ เดี๋ยวพี่ก็ได้นายแล้ว” คำพูดนี้มันแทงใจผม เหมือนถูกพี่จุนมยอนเอามีดนับร้อยเล่มมาแทงที่หัวใจ นี่เหรอลีดเดอร์ที่แสนจะใจดี .. ลีดเดอร์คนนั้นเขาหายไปไหนแล้วนะ

            “อ่ะ..อ๊า ..” แบคฮยอนปล่อยของเหลวสีขาวเข้ามาภายในช่องทางที่ตอนนี้บอบช้ำมาก เขาสูดปาก ก่อนจะถอดแกนกายของตัวเองออกไป

            “อ..อ๊ะ...” ผมร้องออกมาเบาๆเมื่อผมเองก็เสร็จตามแบคฮยอนไปเพราะการปรนเปรอของเซฮุน

            “ใครจะเป็นคนต่อไป”

            “ฉันสิ” พี่จุนมยอนพูดก่อนจะลุกขึ้นแล้วไปประจำที่ที่แบคฮยอนเพิ่งลุกออกมาเมื่อกี้ เพื่อนตัวเล็กเดินมานั่งข้างๆผมเขาประคองใบหน้าของผมไปจูบ แต่ผมไม่ตอบสนองอะไร ไม่นานนักเขาก็ไปนั่งเล่นเกมกับชานยอล .. เล่นกันได้สักพักก็จูบกัน ก็แหงล่ะ ความสัมพันธ์ชานยอลและแบคฮยอนไม่ธรรมดา ผมก็ไม่เข้าใจว่าชานยอลจะไม่หวงแบคฮยอนหน่อยเหรอ ทำไมกล้าให้แบคฮยอนมาเสียบผมแบบนี้ ...

            เหอะ สงสัยจะชอบ ผมเกือบลืมไปว่าพวกเขาน่ะโรคจิต

            “นายน่ารักมากเลยนะคยองซูอ่า” เขาหยิกแก้มผมเบาๆ รอยยิ้มที่ผมเคยคิดว่าสดใสมาตลอด แต่วันนี้รอยยิ้มของคนพวกนี้มันมีความหมายไปในทางเลวทราม .. ผมหลับตาแน่น เมื่อพี่จุนมยอนสอดแทรกแกนกายของตัวเองเข้ามา พี่เขาขยับสะโพกเนิบนาบในตอนแรก ก่อนจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆตามความปรารถนาของตัวเอง ทางด้านหลังของผมคือจงอิน เขาทั้งหอม ทั้งจูบ ที่ตัวผม จนผมคิดว่าป่านนี้รอยบ้าๆพวกนั้นคงเต็มตัวผมไปหมด

            “ปากฮยองหวานที่สุดเลยนะ” จงอินจับใบหน้าของผมให้หันไปทางเขาแล้วเขาก็จูบอย่างอ่อนโยน ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงรู้สึกดีและเคลิ้มไปกับรสจูบของเขา แต่ตอนนี้ผมรู้สึกขยะแขยงเต็มทน

            ผมทำได้แค่อยู่นิ่งๆให้พวกเขาทำเหมือนว่าร่างกายของผมเป็นตุ๊กตาที่ไม่มีชีวิตและไม่มีจิตใจ .. ต่อให้ผมพูดอะไรไปพวกเขาก็ไม่หยุดหรอก และต่อจากนี้ก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะหยุดมั้ย ผมต้องทำยังไงถึงจะหนีพวกเขาพ้น

            ผมเป็นคนมีความฝันนะ ผมไม่อยากออกจากวง แต่ผมก็กลัว ... กลัวว่าพวกเขาจะทำอะไรผมอีก

            “อ...อ่าห์ ....” พี่จุนมยอนครางออกมาเมื่อเขาทำมันเสร็จและปล่อยให้ของเหลวสีขาวนั้นไหลเข้ามาในตัวของผม ต่อไปก็เซฮุน ... คนสุดท้ายแล้วสินะ ...

            “ออกไปจากตัวคยองซูฮยองให้หมดเลย” คำพูดของเซฮุนทำให้ผมขมวดคิ้วเป็นปม .. เขาไล่จงอินกับพี่จุนมยอนที่กำลังลูบส่วนอ่อนไหวของผมอยู่ ... มักเน่คนนี้คิดอะไรอยู่
           
            “อะไรของนายเซฮุน” จงอินถาม

            “อยากทำท่าอื่น กลัวคยองซูฮยองเมื่อย”

            “เด็กนี่.....” พี่จุนมยอนสบถออกมา ก่อนจะหันมามองหน้าจงอินแล้วบอกให้เดินไปนั่งทางอื่น .. เหอะ ผมก็นึกว่าเซฮุนจะช่วยผม แต่ที่ไหนได้ เขากลับจะทำมันเองคนเดียว ..

            เอาเลย เอาที่สบายใจนะเซฮุน

            เซฮุนดึงร่างของผมให้นั่งเผชิญหน้ากับเขา มือทั้งสองข้างของเซฮุนลูบแก้มของผมเบาๆก่อนจะค่อยๆโน้มใบหน้าเข้ามาจูบ ... มันอ่อนโยนนะครับ แต่ผมอาจจะเคลิ้มไปกับรสจูบของเขาก็ได้ถ้าไม่เกิดเรื่องแบบนี้  ผมหลับตาลงเตรียมลงขุมนรกที่พวกเขาขุดให้ผมลงไปเป็นหลุมสุดท้ายของวัน .. อย่างที่บอก ไม่รู้ว่าต่อจากนี้พวกเขาจะทำอะไรผมอีกรึเปล่า

            คิดแบบโลกไม่สวยก็โดนแน่ๆ ....

            เซฮุนที่ถอดกางเกงออกแล้วยกสะโพกของผมขึ้นสูงแล้วค่อยๆปล่อยให้ลงล็อคพอดี ... ผมเบ้หน้าด้วยความเจ็บ มันเจ็บจริงๆ เซฮุนครางออกมาอย่างสุขสมก่อนจะเริ่มยกสะโพกผมขึ้นลงช้าๆ ผมไม่สวนสะโพกช่วยเขาหรอกนะ อยากได้ก็ทำเอง

            “โห ไอ้เด็กนี่ .. ถ้าไม่เห็นว่าเป็นมักเน่นี่ถีบตกตึกแล้วนะ” พี่จุนมยอนพูดด้วยน้ำเสียงเหวี่ยงๆ

            “ก็ผมเป็นคนสุดท้ายนี่ มันต้องมีอะไรน่าสนใจกว่าพวกฮยองนิดนึง คึคึ”

            “งั้นวันหลังแบ่งกันคนละวันเลย” ชานยอลพูด

            “มาทำตารางกันดีมั้ย ?” แบคฮยอนถามทุกคน ... นี่พวกเขา .....

            “เออดีๆ นายทำเลยแบคฮยอน” ชานยอลเออออไปกับแบคฮยอนที่อาสาจะทำตาราง ...
           
            ตารางทำร้ายผม ....

            “พวกนายไม่มีสิทธิ์ ..อึกก ..  พอเถอะ ขอร้อง อย่าทำลายชีวิตของฉันไปมากกว่านี้เลย” ผมพูดเสียงแผ่วเบา คิดว่าทุกคนคงจะได้ยิน เซฮุนหยุดนิ่งไปก่อนจะดันร่างของผมให้นอนราบไปกับพื้นห้อง จากนั้นเขาก็กระแทกเข้าออกอย่างรุนแรง ผมเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด น้ำตาไหลออกมาอีกระลอก

            “มีสิทธิ์ดิ พวกผมเป็นผัวพี่นะ” จงอิน ... ไอ้เด็กนี่ ..... ผมอยากจะฆ่าพวกเขาให้ตายจริงๆ

            “ฉันไม่ได้เป็นเมียพวกนาย อ๊ะ .. ฉันไม่เต็มใจ......พอสักที หยุดทำร้ายฉันสักที”

            “พี่หยุดพูดสักทีได้ป้ะ ไม่มีใครฟังพี่หรอก นอนอ้าขาให้พวกผมก็พอแล้ว” จงอินพูดอย่างไม่แยแส ผิดถูกคืออะไรพวกเขาไม่เข้าใจกันเหรอ

            “อ่ะ...อา ....” ไม่นานนักเซฮุนก็เสร็จ คนเป็นน้องถอดแกนกายของตัวเองออก เขาอ้าขาผมออกแล้วโน้มใบหน้ามายังส่วนอ่อนไหวของผม ปากของคนเป็นน้องครอบครองแกนกายของผมไว้ เซฮุนขยับใบหน้าขึ้นลง ผมกำมือแน่นเมื่อฟันของเซฮุนกระทบกับส่วนอ่อนไหว เขาทำมันไปเรื่อยๆจนในที่สุดของเหลวสีขาวขุ่นก็พวยพุ่งเข้าไปในปากของมักเน่ของวง

            “คยองซูฮยองโคตรเด็ด คึคึ” เซฮุนหัวเราะออกมาเบาๆ



กลับไปอ่านต่อและเม้นท์ได้ที่ >> http://my.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1097534&chapter=5